ปฎิเสธไม่ได้ว่าในชีวิตหนึ่ง เราได้เผชิญกับเรื่องราวต่าง ๆ พร้อมกับพบจุดสูงสุดเเละต่ำสุด ซึ่งดำเนินควบคู่กับสองเท้าของการมีชีวิตที่ขับเคลื่อนไปข้างหน้าเเละไม่มีถอยหลัง อาจมีบ้างที่ในระหว่างทางอันราบเรียบ เราอาจพบเจอกับความเจ็บปวดระหว่างทาง ทำให้เราหยุดนิ่งไปชั่วคราว เมื่อเราหยุด เราจะเกิดการค้นพบจากการทบทวนความเจ็บปวด ณ ขณะนั้น
“นิทรรศการ the pain of being…” ไม่ต่างอะไรกับเรื่องเล่าขนาดยาวของความเจ็บปวดจากเรื่องๆ หนึ่งของศิลปินแต่ละคน ความเจ็บปวดนี้กลายเป็นสิ่งเร้าที่ทำให้ศิลปินเกิดความสนใจ ก่อนที่ระยะเวลาจะค่อยๆ ทำให้ความเจ็บปวดค่อยๆตกตะกอนไปสู่การค้นพบบางอย่างและได้ถูกร้อยเรียงเกิดเป็นผลงานในนิทรรศการฯ ครั้งนี้ ซึ่งศิลปินแต่ละคนต่างให้ความหมายต่อความเจ็บปวดที่ต่างกันแต่ในขณะเดียวกันก็สามารถรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นร่วมกันได้ ไม่ว่าปัจจุบันความเจ็บปวดนั้นจะยังคงอยู่หรือได้จางหายไปตามกาลเวลาหรือไม่ แต่ถึงกระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า รอยแผลเป็นที่เกิดขึ้นทำให้เราได้ค้นพบว่าความเจ็บปวดจะสามารถ ‘กลายเป็น’ อะไรได้บ้างและเราค้นพบอะไรจากตะกอนที่หลงเหลือเหล่านั้น…