กิจกรรมฉายภาพยนตร์แบบ immersive 360 องศา ในกิจกรรม CO with 360 movies (รอบละ 30 นาที )
กิจกรรมฉายภาพลงบน Geodesic Dome หรือ FAAMAI Dome โดย ไทเลอร์ เจมส์ (Tyler James)
วันที่ 10-13 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17.00 - 21.00 น.

สถานที่: Geodesic Dome หรือ FAAMAI Dome บริเวณข้างอุทยาน 100 ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
*เข้าชมฟรี
*ลงทะเบียนชมภาพยนตร์ได้ ที่นี่
*เงื่อนไขการชมภาพยนตร์ดู ที่นี่

ศูนย์ปฏิบัติการศิลปกรรมดิจิทัล หรือ ฟ้าใหม่ FAAMAI ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเทศกาลงานออกแบบกรุงเทพฯ (Bangkok Design Week) ในครั้งนี้ FAAMAI จัดกิจกรรมออกเป็น 2 ส่วนคือ กิจกรรมฉายภาพลงบน Geodesic Dome หรือ FAAMAI Dome โดย ไทเลอร์ เจมส์ (Tyler James) ศิลปิน New Media ที่ใช้การเขียนโค้ดผ่านโปรแกรม Max/MSP นำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยที่มีปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่และผู้คนในหลายรูปแบบ และกิจกรรมฉายภาพยนตร์ภายใน Geodesic Dome หรือ FAAMAI Dome จะฉายภาพยนตร์ 2 เรื่องสลับกัน คือ DESCONEXION ภาพยตร์แบบฟูลโดม 360 องศา ผลงานชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนตรรกะทางคณิตศาสตร์ และสภาวะ การขาดความเชื่อมต่อที่ชัดเจนระหว่างมนุษย์ และในห้วงเวลาถดถอยของสังคม และ FRACTAL TIME ภาพยนตร์ฟูลโดมแนวนามธรรม โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับจุดกำเนิดและความเป็นจักรวาลในอนาคต ศิลปิน Horsthuis อยากมอบผลงานที่เป็น “การเดินทางแห่งการค้นพบ” ชิ้นนี้แก่ผู้ชม ให้ได้รับประสบการณ์เสมือนก้าวเข้าไปในโลกเสมือนจริง รอบละ 30 นาที

1. ภาพยนตร์เรื่อง DESCONEXION โดย ฮอเก้ แบนเดร่า (Jorge Bandera)
ฮอเก้ แบนเดร่า จบการศึกษาด้านการออกแบบ และมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษในการสร้างสื่อมัลติมีเดียจากเมืองโบโกตา ประเทศโคลอมเบีย เขายังจบการศึกษาปริญญาโทด้านการออกแบบที่บัวโนสไอเรสประเทศอาร์เจนตินาอีกด้วย ผลงานของเขามุ่งเน้นไปที่ภาพเคลื่อนไหวแอนิเมชั่น Generative design, Generative art, รวมถึงศิลปะแบบ Immersive ล่าสุดฮอเก้ แบนเดร่า มุ่งสนใจกับการทดลองสร้างภาพบนฟูลโดมและสร้างสรรค์การบรรยายภาพแบบเสมือนจริง ภาพยตร์ DESCONEXION แบบฟูลโดม 360 องศา ผลงานชิ้นนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสะท้อนตรรกะทางคณิตศาสตร์ และสภาวะการขาดความเชื่อมต่อที่ชัดเจนระหว่างมนุษย์ และในห้วงเวลาถดถอยของสังคม

2. ภาพยนตร์เรื่อง FRACTAL TIME โดย จูเลียส (Julius Horsthuis)
จูเลียสมีความรักในภาพยนตร์และวิดีโอตั้งแต่อายุ 12 ปี ในช่วงปี 2000-2006 เขาได้เริ่มต้นชีวิตการทำงานในแวดวงภาพยนตร์ หลังจากเรียนจบมัธยมปลายในบทบาทที่ต่างกันไป ในขณะเดียวกัน จูเลียส ยังได้พัฒนาความสนใจด้านคอมพิวเตอร์กราฟิก โดยเข้าไปทำงานกับบริษัทด้านโพสต์โปรดักชั่นหลาย และดูแลรับผิดชอบภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น “Nova Zembla” (Oerlemans, 2011) และ หนังที่ได้รับรางวัลออสการ์อย่าง Manchester by the Sea (Lonergan, 2016)  ในปี 2013 จูเลียสเริ่มทดลอง  “Fractal  Environment” โดยการผสมผสานที่เป็นเอกลักษณ์ระหว่างนามธรรมและภาพยนตร์แอนิเมชั่น ผลงานของเขาได้รับการยอมรับจากทั่วโลกอย่างรวดเร็วโดยได้รับการโพสต์เป็นประจำในบล็อกและเว็บไซต์ข่าวเช่น The Creators Project, Gizmodo, Newsweek และ Vimeo Staff Picks ภาพยนตร์ FRACTAL TIME  ฟูลโดมแนวนามธรรม โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับจุดกำเนิดและความเป็นจักรวาลในอนาคต ศิลปิน Horsthuis อยากมอบผลงานที่เป็น “ การเดินทางแห่งการค้นพบ” ชิ้นนี้แก่ผู้ชม ให้ได้รับประสบการณ์เสมือนก้าวเข้าไปในโลกเสมือนจริง โดยผู้ชมสามารถรับชมภาพยนตร์พร้อมภาพและเสียงเชิงอุปรากร ไม่ว่าจะเป็น: เมืองต่างๆที่โผล่ออกมาจากยานอวกาศพื้นมหาสมุทรกลายเป็นป่าเมื่อใดก็ได้ราวกับว่าพวกเขาได้ไปถึงสุดขอบแห่งที่จินตนาการที่วาดไว้

รอบชมภาพยนต์ ระหว่างวันที่ 10 - 13 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 17.00-21.00 น.
* รับจำนวนจำกัด

- 17.00-17.30 (DESCONEXION)
- 17.30-18.00 (FRACTAL TIME)
- 18.00-18.30 (DESCONEXION)
- 18.30-19.00 (FRACTAL TIME)
- 19.00-19.30 (DESCONEXION)
- 19.30-20.00 (FRACTAL TIME)
- 20.00-20.30 (DESCONEXION)
- 20.30-21.00 (FRACTAL TIME)

กิจกรรมฉายภาพลงบน Geodesic Dome หรือ FAAMAI Dome โดย ไทเลอร์ เจมส์ (Tyler James) ศิลปิน New Media ที่ใช้การเขียนโค้ดผ่านโปรแกรม Max/MSP นำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะร่วมสมัยที่มีปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่และผู้คนในหลายรูปแบบ ประกอบไปด้วยผลงาน 2 ชิ้นคือ 

1. "SuSu Boost Boost."
พูดถึงการเดินทางของโควิทที่อยู่กับเรามา 2 ปี และทุกครั้งที่สถานการณ์เริ่มดีขึ้น คลื่นลูกใหม่ก็กลับมา และการล็อกดาวน์ก็ใกล้เข้ามาอีกครั้ง ปี 2563 ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ ไม่มีวัคซีน ดังนั้นจึงไม่มีกำลังมากที่จะต่อสู้กับเจ้าโควิท ในปี 2565 มีการวิจัยและแสดงให้เห็นว่าการฉีดวัคซีน และการฉีดกระตุ้นช่วยลดโอกาสที่ผู้ป่วยจะต้องอยู่ในโรงพยาบาลได้ ส่งผลให้ปัจจุบันเรามีเครื่องมือและอาวุธในการต่อสู้กับไวรัส แม้ว่าวัคซีนจะไม่สมบูรณ์แบบ และลดการเข้ารักษาในโรงพยาบาลได้

2. "The black is only black when you forget to keep moving."
ยังคงพูดถึงโควิดที่ทุกคนต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลง ที่ทำให้ชีวิตเรามีสีสันน้อยลง จากข้อเท็จจริงที่ว่าในช่วงโควิด มีช่วงเวลาหรือสถานการณ์ที่มืดมนมากมาย แต่ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่จะรักษาจิตวิญญาณแห่งการสร้างสรรค์และขี้เล่น เพื่อช่วยให้ตัวเราและผู้อื่นพบบางสิ่งบางอย่างเพื่อผ่านพ้นปัญหาไปด้วยกัน ไทเลอร์จึงต้องการให้ผู้คนมีช่วงเวลากับโดมและประสบการณ์เชิงโต้ตอบนี้เพื่อนำเสนอช่วงเวลาแห่งการเล่นนามธรรมที่สนุกสนาน